Shop
CHIANG MAI BLEND By Mr. Chaiwat ( เจ๊กจี๋ )
฿680.00
ปีนี้โรงคั่วเราดีใจและภูมิใจกับกาแฟไทย ที่คุณภาพมันสุดมากๆที่เหล่า coffee producer ตัวท็อปต่างส่งมาให้อยู่ในมือเรา หนึ่งในนั้นคือกาแฟที่สำหรับเราแล้วขอใช้คำว่า “ Exotic coffee “ เป็นกาแฟไทยที่โดดเด่นที่สุดตั้งแต่เราคั่วกาแฟมา ผมมักพูดบ่อยๆกับพรรคพวกในวงการกาแฟว่า นี่มันคือกาแฟ Maker series ของ Ninety+ ในเวอร์ชั่นกาแฟไทย
ตอนแรกเราใช้ชื่อเรียกกาแฟตัวนี้ว่า เชียงใหม่เบลนด์ และต่อมาเราใช้ชื่อเจ้าของกาแฟเป็นชื่อเรียก เพื่อให้เกียรติกับผู้สร้างสรรค์กาแฟไทยที่พิเศษสุดตัวนี้ว่า “ กาแฟคุณชัยวัฒน์ “ หรือนิคเนมที่เราเรียกกันตามชื่อเล่นแกว่า “กาแฟเจ็กจี๋”
เล่าย้อนไปเมื่อ1ปีก่อน เราได้ชิมตัวอย่างกาแฟของเจ็กจี๋จากพี่มด (โรงคั่วมดแดงไฟ) ซึ่งเป็นหลานของเจ็กจี๋นั่นเอง พอชิมแล้วรู้เลยว่า นี่ไม่ธรรมดา และปีนั้นเราได้กาแฟสารมาคั่วในจำนวนไม่มาก
เพราะเจ็กจี๋แกแค่ทดลองการ processให้ดู ซึ่งจะบอกว่า รุ่นใหญ่โชว์ของก็ได้ เพราะช่วงนั้น trend ของกระบวนการ process กาแฟ มีการทดลอง มีความหลากหลายมากกว่าที่ผ่านมา
ซึ่งผลลัพท์ก็คือ ขายหมดอย่างรวดเร็วโดยที่ยังไม่ทันโปรโมทใดๆ ด้วยความพิเศษของรสชาติกาแฟตัวนี้ ทำให้เราต้องไม่พลาดที่จะเอากาแฟของเจ็กจี๋กลับมานำเสนอให้ได้อีกครั้ง
เราได้พบเจอเจ็กจี๋บ่อยขึ้น พูดคุยมากขึ้น จึงพบว่า นี่คือบุคคลเบื้องหลัง ที่มีส่วนสำคัญต่อการตั้งต้นกาแฟไทยให้โผล่ขึ้นมาได้อย่างทุกวันนี้ จึงจะเล่าแบบกระชับให้ทราบถึงความเป็นมา
หลายท่านอาจทราบอยู่แล้วว่า ในสมัยก่อน ต้นกาแฟถือว่าเป็นหนึ่งในพืชที่ถูกนำไปปลูกทดแทนฝิ่น (ช่วงนั้นคือสถานการณ์ยาเสพติดมันรุนแรงมาก) ในหลวงรัชกาลที่9 และโครงการหลวงร่วมกับทาง UN พยายามแก้ปัญหาลดการปลูกฝิ่น จัดตั้งโครงการ UN/Thai Program for Drug Abuse Control ซึ่งขณะนั้นธุรกิจหลักๆของครอบครัวเจ็กจี๋ คือค้าขายสินค้ากับชาวเขา และด้วยconnection ของครอบครัวเจ็กจี๋กับกลุ่มชาวเขาหลายๆเผ่า จึงถูกขอมาให้เป็นตัวกลางของโครงการในการประสานงาน ผมถามเจ็กจี๋ว่า “งั้นเจ็กจี๋ ก็เป็นคนไปส่งเสริมการปลูกกาแฟรุ่นบุกเบิกนะสิ” เจ็กจี๋หัวเราะพร้อมบอกว่า “ส่งเสริมน่ะ คำมันสวยไป จริงๆคือ แทบต้องไปกราบตีนมันปลูก 555” ในคำอธิบายคือ ชาวเขาเค้าเคยชินและสบายกับการปลูกฝิ่นอยู่แล้ว การจะนำกาแฟ ซึ่งเขาไม่ได้รู้จัก ไม่เคยกิน เป็นพืชที่ปลูกเสร็จไม่ใช่ว่าจะเก็บกินได้แบบพืชผลอื่นๆ ต้องผ่านการแปรรูปที่ยุ่งยากอีก แน่ล่ะใครอยากจะปลูก จึงจะบอกว่า มันไม่ใช่งานง่ายเลย จนกระทั่งราคากาแฟที่มันตกต่ำมาก ทำให้เจ็กจี๋ต้องรับซื้อกลับมาแปรรูปอีก ไม่งั้นเดี๋ยวชาวเขาเลิกปลูกฟันต้นกาแฟทิ้งอีกเพราะไม่คุ้มเหนื่อย จากจุดเริ่มต้นเหล่านั้นทำให้องค์ความรู้ ประสบการณ์ ความเข้าใจต่อกาแฟไทย สั่งสมผ่านตัวชายคนนี้ ผมถามว่าจากจุดเริ่มต้นนั้น เจ็กจี๋เริ่มprocessกาแฟปีไหน คำตอบคือประมาณ 2524-25 หรือเกือบ 40 ปีแล้ว! ผมรู้สึกได้เลยว่า คนคนนี้สามารถล้วงเอาความลับในธรรมชาติของกาแฟ ออกมาสร้างสรค์ได้ตั้งต้นจนจบ
เกริ่นมายาวแล้ว กลับมาพูดถึงdetail กาแฟเจ็กจี๋ตัวนี้กัน
กาแฟตัวนี้จะถูกเก็บพิเศษออกมาจากล็อตกาแฟ ซึ่งมาจากหลายแหล่งปลูกในเชียงใหม่ แต่หลักๆจะมาจากดอยขุนช่างเคี่ยน, แม่แจ่ม, ไชยปราการ ไอเดียของเจ็กจี๋คือ กาแฟไม่ว่าจะมาจากแหล่งไหนก็ตาม เมื่อผ่านมือแกแล้วจะต้องมีความสม่ำเสมอของรสชาติแบบเดียวกัน คาแร็คเตอร์แบบเดียวกัน กระบวนprocess อาจจะจัดอยู่ในหมวดหมู่ยากหน่อย แต่สามารถเรียกรวบไปเลยว่า “Innovative process” taste note ออกเป็น Craft Chocolate, Cacao nibs,Gooseberry. Acidty จัดจ้าน body หนา กลิ่นฟุ้ง หอมกระแทกหรือ Attractive aroma.